Posts

Showing posts from February, 2016

ลองรับและให้บ้างชีวิตมันจะดี๊ดี

ดีใจที่ได้เงินมาก้อนหนึ่ง แต่ครูผมบอกว่า งั้นเลี้ยงเลย ฟังครั้งแรก อ้าวอะไรเนี่ย ได้ตังค์เหมือนกันทำไมให้เราเลี้ยง...... ผ่านไป ได้เงินอีก ครูก็บอกให้เลี้ยงอีก เอ๊ะ! ชักยังไง แต่เริ่มทำใจได้ ครั้งต่อมาได้เงินอีก ไม่มีใครบอกให้เลี้ยง งง แต่ความรู้สึก อ้าว แปลก อยากเลี้ยงซะงั้น คิดๆดู เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 1. ครูสอนให้ได้แล้วแบ่งปัน แม้จำนวนน้อย สละได้ ยอมเสียได้ ถ้าได้มามากกว่านี้ก็ยอมให้ได้มากกว่านี้ วันนี้ได้พันเลี้ยงร้อย วันหน้าได้หมื่นเลี้ยงพัน ได้แสนเลี้ยงหมื่น เรายังได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้น้อยลง 2. เมื่องานสำเร็จ มีคนมาร่วมแชร์ประสบการณ์ มีคนมาชื่นชม มีคนมาบอกว่ากว่าจะได้มาเป็นยังไง ช่วยสรุป ดีและไม่ดี ไม่หาย ไม่หนี 3. การที่ได้จ่ายออกไปเพื่อจะได้รู้จักว่าเมื่อโตขึ้น ได้เงินมากขึ้น คนรอบกาย ทีมงานได้รับงานมากขึ้น ไม่มีใครคนใดได้ร้อยเปอร์เซ็น แต่ได้เท่าไหร่จะพอ ได้เท่าไหร่จะอยู่ได้ ไม่ฝึกตอนได้น้อยๆ เมื่อได้มากไม่เคยจ่ายก็จะไม่จ่าย "ครูดี" มีนะครับ อยู่ที่เปิดใจเคารพและเชื่อใจมากขนาดไหน

มหาวิทยาลัยออกไปทำงานเพื่อสังคม

น้องๆ -> นศ -> ทำงาน -> เรียนรู้ -> ปรับตัว -> ทำงาน -> พักผ่อน  ในความเห็นส่วนตัวผมต้องประกอบไปด้วยคน 3 กลุ่ม  1) กลุ่มคนไปทำงานกับภาคสังคม ชุมชน อุตสาหกรรม นำโจทย์ปัญหา เงินทุนกลับมา นำองค์ความรู้ที่มีใน ม. นำจุดขายของ ม.ไปใช้ แลกเปลี่ยน 2) กลุ่มคนรวบรวมข้อมูล ความรู้ ความสามารถของบุคลากร ทรัพยากรของ ม. ให้ตอบสนองได้ทัน ทำต่อเนื่องระยะยาว มองไปข้างหน้า ประสานงานทุกส่วน 3) กลุ่มคนที่สร้างฐานความรู้ งานวิจัย นำจุดขายของ ม. มาสร้างความเข้มแข็ง สร้างตัวตน หาและสร้างโอกาส ให้บุคลากร และ นศ ได้มีเวที พื้นที่แสดงออก เป็นที่ยอมรับ  ทั้งสามกลุ่มทำในสิ่งเดียวกันผมว่าลำบากและช้า ทำแยกและส่งต่อ จะเร็วและมีประสิทธิภาพ นะนะ

วิชาพื้นฐาน fundamental

หลายครั้งที่ทุกคนมักจะบอกว่าวิชา basic หรือ fundamental มันง่าย และใครก็สอนได้ แต่ในความเห็นผม กลับมองว่าวิชานี้โคตรยากต้องให้ครูผู้ที่มีประสบการณ์ มีความถนัดในอาชีพนั้นมาย่อยองค์ความรู้ที่ตัวเองมี แล้วถอดออกมาให้ลูกศิษย์ได้เข้าใจ และต้องเข้าใจ เขาถึงจะเติบโตเรียนต่อในวิชาที่ต้องประยุกต์ใช้งาน จบไปแล้วไม่เป็นภาระของสังคม ให้คนอื่นพึ่งพิงได้  วิชา basic พื้นฐานก็ต้องทำให้ลงตัว ให้เข้าใจมากที่สุด วิชาประยุกต์ ใช้ทักษะ ก็ต้องทำ เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย ผลประโยชน์ก็ตกที่เด็ก  สร้างฐานวิชา และอาชีพ

9 วิธี เอาชนะความอิจฉาริษยา

Cr: http://talk.mthai.com/topic/317579 คุณ เคยรู้สึกเช่นนี้บ้างมั้ย.. อิจฉาใครบางคน เพียงเพราะเห็นความสำเร็จของเขา และคุณจะพูดถึงเหตุผลธรรมดาๆที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ เพื่อที่ว่าคุณจะได้มองข้ามมันไป และรู้สึกดีๆกับตัวเอง อารมณ์ความ รู้สึกเช่นนี้ เกิดจากสัญชาตญาณของมนุษย์ที่พยายามปกป้องตัวเอง ด้วยการฝังกลบความบกพร่องและความรู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่มั่นคง ไว้ภายในจิตใจ แต่ จะมีประโยชน์อะไรกับการทำเช่นนั้น เพราะไม่เพียงแต่ความรู้สึกอิจฉาริษยาจะไม่ส่งผลดีต่อการสร้างความสัมพันธ์ และการติดต่อสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับคนรอบข้างแล้ว มันยังทำให้ตัวเราเองรู้สึกแย่ด้วย และอาจส่งผลร้ายต่อเนื่องไปยังร่างกาย เช่น ทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง หากเป็นเช่นนี้ เหตุใดยังปล่อยตัวเองให้ตกอยู่ในภาวะดังกล่าว 9 วิธีต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณจัดการกับอารมณ์อิจฉาริษยาให้ลดน้อยลง และช่วยขจัดรูปแบบความคิดด้านลบออกจากจิตใจ 1. เฝ้ามองอารมณ์ริษยา การ พร่ำบอกตัวเองไม่ให้รู้สึกอิจฉาริษยา ไม่ช่วยให้หลุดพ้นจากอารมณ์นั้นได้ เพราะยิ่งต่อต้าน ยิ่งคงอยู่ แต่ถ้ารับรู้และเข้าใจสถานภาพอย่างลึกซึ้ง เราจะเริ่มขจัดความรู้...

คีอานู รีฟส์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสารเกี่ยวกับการสนใจธรรมะว่า

"หลักธรรมอย่างแรกที่รู้คือ ความจริงสี่ประการ (อริยสัจ 4) เกี่ยวกับ ทุกข์ สาเหตุแห่งทุกข์ หนทางดับทุกข์ และวิธีพ้นไปจากทุกข์ จนพบความสุข ศาสนาพุทธ เชื่อในการปล่อยวาง ตัวของเรา ซึ่งก็คือ อีโก ในความเชื่อทางตะวันตก พุทธจะสอนว่า สิ่งที่เรานึกว่ามันเป็น "ตัวเรา" นั้น ที่แท้มันไม่มีอยู่จริง  และในขณะที่ผมไปเนปาลเพื่อลองชุดที่ต้องใช้ในการถ่ายทำ ผมก็ได้พบท่านอาจารย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในศาสนาพุทธ ตำแหน่งท่านคือ ริมโพช ซึ่งทำงานกับ เบอร์นาร์โด ผมได้คุยกับท่านอยู่หลายครั้ง ท่านสอนผมให้ฝึกร่างกาย เพื่อให้เข้าถึงสมาธิ และท่านสอนผมว่าทำอย่างไรจึงจะละวางตัวตนได้หมดไป แล้วไปถึงนัยยะอื่นๆ แง่มุมอื่นๆ เพื่อให้เข้าถึงความเมตตา ความหยั่งรู้ และความสุขในที่สุด ตอนที่ผมต้องเรียนสิ่งเหล่านี้กับท่านริมโพช มันยากมาก มันเจ็บด้วยนะ นั่งขัดสมาธินานๆ น่ะ และมันยังทำใจลำบากจริงๆ ที่จะละวางสิ่งที่เป็นตัวตนของเรา ท่านจึงบอกผมว่า จงอย่าเชื่อในสิ่งที่ท่านพูด ท่านให้ผมคิดทุกอย่างที่ได้ฟังมา ทดสอบกับสิ่งที่ผมเคยรู้ และขบคิดอย่างจริงจัง เพื่อให้ผมรู้ได้ด้วยตัวเองว่า มันเป็นอย่างนั้นหรือไม่ นั่นคือ ศาสนาพุทธ...

grid connected ขนาดเล็ก ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้

Image
ติดตั้ง inverter grod connected ขนาดเล็กเพื่อช่วยลดค่าไฟฟ้า ติดแผง 300 วัตต์อย่างน้อยได้วันล่ะ 1unit 

อุณหภูมิหนาวเย็น

Image
เช้าวันศุกร์ที่ 12 ยังหนาวเย็นอยู่ ไม่รู้อากาศจะเป็นแบบนี้อีกนานเท่าไร 

งาน KM 2559 ชุมชนนักปฏิบัติสู่การจัดการความรู้ในศตวรรษที่ 21

Image
งาน KM @โครงการหลวง ตีนตก

เรื่องเล่า เมื่อแอบเห็นคนรอขึ้นลิฟต์ เยอะ และหงุดหงิดอารมณ์เสีย

"ทางลัดย่อมไปถึงจุดหมายได้เร็ว ทางเบี่ยงถึงจุดหมาย ช้า แต่มันมีเหตุ ทางเดิม ไปให้ถึงเร็วเหมือนทางลัด ต้องใส่แรง ต้องให้เวลามากกว่าคนอื่น ลัดได้แต่ทางเดิมก็ต้องเดิน อย่าลัดจนเดินด้วยทางเดิมไม่ได้  นิสัยมันจะเสีย มากไปก็เป็นสันดาน"

มองไปข้างหน้า ปี 2030

ทำให้เกิดสังคม knowledge exchange: KX ใครเดินเข้ามาหาความรู้ได้หมด โดยไม่ต้องบอกว่าใครทำ ด้วย keywords:  - inter discipline ผนวก ผสานวิชาการหลากหลายสาขา หลายศาสตร์เข้าด้วยกัน - innovation นวัตกรรมใหม่ๆ  - outreach   ขยายบริการในเชิงรุก ออกไปนอกสถานที่ ไปยังคนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย คนที่ไม่เคยสนใจจะใช้บริการ หรือไม่มีโอกาสในการใช้บริการ - entrepreneurial สร้างให้มีจิตสำนึกการเป็นเจ้าของกิจการ  หลังจากนั้นให้กำหนดตัวตนของเราว่าจะเป็นอย่างไร design identity ให้ชัดเจน  เครดิต พี่เตอร์ สุเมธ 

การสังเกตดูคนเจ็ดวิธี จากหนังสือตำราพิชัยขงเบ้ง

หนึ่ง ยุแหย่ด้วยเรื่องดีร้ายแล้วสังเกตซึ่งปณิธาน สอง บริภาษให้อับจนแล้วสังเกตดูปฏิภาน สาม สอบถามเรื่องกลยุทธ์แล้วสังเกตดูซึ่งปัญญา สี่ บอกกล่าวซึ่งเคราะห์ภัยแล้วสังเกตความกล้าหาญ ห้า มอมเมาด้วยสุราแล้วสังเกตดูซึ่งอุปนิสัย หก ผูกมัดด้วยอามิสแล้วสังเกตดูสุจริต เจ็ด มอบหมายให้ทำในเวลาจำกัดแล้วสังเกตดูสัจจะ

Battery Charging State

เมื่อ Function MPPT Bulk ทำให้แบตเตอรี่ใกล้เต็ม ต้องเขาสู่ Mode Absorbtion ไปอีก 2 ชั่วโมง ทำเป็น PWM ที่แรงดัน 14.5-14.6V เพราะถ้าทำ MPPT อีกมันจะแกว่งไปมา พอครบเวลาก็ทำเป็นสภาวะ Mode Floating ที่แรงดัน 13.8V ไปจนกว่าจะหมดแสงอาทิตย์ และเมื่อแรงดันต่ำกว่า 13.8V ก็เข้าสู่ Mode MPPT Bulk วนกลับไป http://youtu.be/5LfO0Aeqc4g

คนไม่เหมือนกัน

"คนที่ไม่นำพาความคิดผู้อื่น ก็จะไม่รู้จักถ่อมตนและประมาณตนเอง", เหมยฉางซู บุรุษบูรพาทำเนียบหลางหยา เล่ม 5

ครองตน ครองคน ครองงาน

"สอน:ให้ละเอียด ช้า ย้ำ ไม่เข้าใจให้ถาม ทำงาน:ให้ไว ตัดสินใจเฉียบขาด รับผิด รับชอบ พูดคุย:ให้สั้น สรุปให้ได้ใจความ ประสานงาน:ให้นุ่มนวล ถ่อมตน มีไมตรีจิต" , ครูผมบอก