Thorium เป็นทางเลือกที่มีศักยภาพสำหรับวงจรเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ในอนาคต เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติและลักษณะความปลอดภัยที่ดี อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายด้านเทคโนโลยีและเศรษฐศาสตร์ การวิจัยและลงทุนพัฒนาเชิงพาณิชย์จึงยังต้องดำเนินต่อไป
ตัวอย่าง: โครงการพัฒนาในอินเดียและจีนเป็นเครื่องยืนยันว่าทอเรียมได้รับความสนใจจากมหาอำนาจด้านพลังงานและวิทยาศาสตร์ของโลกFact (ข้อเท็จจริง)
-
Thorium (ทอเรียม) เป็นธาตุกัมมันตรังสีชนิดหนึ่ง ส kýัญลักษณ์ทางเคมี Th เลขอะตอม 90 พบในธรรมชาติในรูปของแร่โมนาไซต์ (Monazite) เป็นหลัก
-
ทอเรียมเป็นโลหะหนักในกลุ่มแอคทิไนด์ (actinide series) มีลักษณะเป็นโลหะสีเงิน
-
ธรรมชาติของทอเรียมมีไอโซโทปเสถียรเพียงชนิดเดียวคือ Th-232
-
ทอเรียมมีปริมาณมากในเปลือกโลก มากก่ายูเรเนียมถึงประมาณ 3–4 เท่า
-
ทอเรียมถูกใช้ในอุตสาหกรรมบางประเภท เช่น ผลิตถ่านไฟฉาย ก๊าซแลมป์ และเซรามิก แต่ความสำคัญหลักในปัจจุบันคือ ศักยภาพสำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิงนิวเคลียร์รุ่นใหม่
-
ทอเรียม ไม่สามารถใช้โดยตรงในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ธรรมดา ต้องถูกเปลี่ยนสภาพเป็นไอโซโทปฟิสไซล์ (fissile) เช่น ยูเรเนียม-233 (U-233) ก่อน
Opinion (ความเห็น/ทัศนะ)
-
ทอเรียมถูกมองว่าเป็น "ทางเลือกที่มีศักยภาพสูง" สำหรับการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในอนาคต เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ในธรรมชาติและลักษณะของวงจรเชื้อเพลิงที่มีความปลอดภัยและเสี่ยงต่อการแพร่กระจายนิวเคลียร์ต่ำกว่ายูเรเนียม
-
ในมุมของความมั่นคงด้านพลังงาน ทอเรียมสามารถช่วยลดการพึ่งพายูเรเนียมซึ่งอาจมีข้อจำกัดด้านซัพพลายและภูมิรัฐศาสตร์
-
ในบางมุมมอง นักวิชาการและนักนโยบายเชื่อว่าทอเรียมเป็น “สะพาน” สู่ยุคพลังงานสะอาด เพราะสามารถผลิตไฟฟ้าแบบ Low Carbon ได้ต่อเนื่อง (Baseload) โดยปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ
-
อย่างไรก็ตาม การนำทอเรียมมาใช้จริงในระดับเชิงพาณิชย์ยังต้องการการพัฒนาเทคโนโลยีอีกมาก มีข้อถกเถียงถึงความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ ความซับซ้อนทางวิศวกรรม และต้นทุนเริ่มต้นที่สูง
Information (ข้อมูลเสริม/อธิบาย)
กระบวนการและศักยภาพการใช้ทอเรียม
-
เครื่องปฏิกรณ์แบบทอเรียม (Thorium Reactor) ต้องใช้ปฏิกิริยา "การเพาะพันธุ์" (Breeder) เพื่อเปลี่ยน Th-232 ไปเป็น U-233 ซึ่งสามารถแตกตัวฟิชชันเพื่อผลิตพลังงานได้
-
ตัวอย่างเทคโนโลยีที่ศึกษา เช่น Molten Salt Reactor (MSR) ที่ใช้ทอเรียมละลายในเกลวล (molten salt) มีการทดสอบต้นแบบในสหรัฐฯ ตั้งแต่ยุค 1960s
-
ทอเรียมมีแนวโน้มที่จะผลิต “กากกัมมันตรังสี” ที่มีอายุครึ่งชีวิตสั้นกว่าวงจรเชื้อเพลิงยูเรเนียม และยากต่อการนำไปใช้ทางทหาร (proliferation resistance)
-
หลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย และนอร์เวย์ มีโครงการทดลองวิจัยพัฒนาเตาปฏิกรณ์ทอเรียม
เอกสารอ้างอิงเบื้องต้น
-
World Nuclear Association. (2024). Thorium [online].
-
IAEA. (2023). Thorium fuel cycle — Potential benefits and challenges
-
Sorensen, K. (2019). Thorium: Energy Cheaper than Coal.
-
MacPherson, H. G. (1985). The Molten Salt Reactor Adventure.
-
Schneider, M., Froggatt, A. (2023). The World Nuclear Industry Status Report.
Fact (ข้อเท็จจริง)
-
ทอเรียมในธรรมชาติ (Th-232) ไม่สามารถแตกตัวฟิชชันโดยตรง จึงต้อง “เพาะพันธุ์” (breeding) ให้กลายเป็นไอโซโทปที่แตกตัวได้ เช่น ยูเรเนียม-233 (U-233)
-
กระบวนการนี้ต้องใช้ เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบพิเศษ (เช่น Molten Salt Reactor หรือ Fast Breeder Reactor) ที่สามารถรองรับกระบวนการเปลี่ยน Th-232 → U-233
-
การใช้ทอเรียมเป็นเชื้อเพลิงประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญ:
-
ขุดแร่และสกัดทอเรียม จากแร่โมนาไซต์หรือธอไรต์
-
ผลิตแท่งเชื้อเพลิงทอเรียม (Thorium Fuel Elements)
-
บรรจุในเครื่องปฏิกรณ์ร่วมกับวัสดุที่ให้นิวตรอนเร็ว (เช่น ยูเรเนียม-235, พลูโตเนียม) เพื่อกระตุ้นการเปลี่ยน Th-232 ให้เป็น U-233
-
U-233 ที่ได้จะทำฟิชชันให้พลังงาน และสามารถเก็บเกี่ยวพลังงานความร้อนมาเปลี่ยนเป็นไฟฟ้า
-
กากเชื้อเพลิง ที่เหลือจะถูกจัดเก็บหรือรีไซเคิลต่อไป
-
Opinion (ความเห็น/ทัศนะ)
-
วงจรเชื้อเพลิงทอเรียม ให้ประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงสูง และมีของเสียกัมมันตรังสีน้อยกว่าวงจรเชื้อเพลิงยูเรเนียม
-
การผลิตพลังงานจากทอเรียมมีโอกาสลดปัญหาการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ (proliferation risk) เนื่องจากกากเชื้อเพลิงที่ได้จาก U-233 มีสิ่งเจือปนที่ยากต่อการนำไปใช้ผลิตอาวุธ
-
ในมุมเศรษฐศาสตร์และสังคม เทคโนโลยีนี้ ยังไม่แพร่หลายเชิงพาณิชย์ เพราะต้นทุนสูงและเทคโนโลยีซับซ้อน การลงทุนจึงต้องการการสนับสนุนภาครัฐและการยอมรับของสังคม
-
หลายประเทศมองว่าการลงทุนพัฒนาวงจรเชื้อเพลิงทอเรียมควรเป็น “ทางเลือกเสริม” ในการสร้างความมั่นคงพลังงานในอนาคต
Information (ข้อมูลเสริม/อธิบาย)
ตัวอย่างวงจรการได้มาซึ่งพลังงานจากทอเรียม
-
เหมืองและสกัด:
-
แหล่งแร่โมนาไซต์ในอินเดียและออสเตรเลียให้ Th-232 เป็นวัตถุดิบ
-
-
การผลิตแท่งเชื้อเพลิง:
-
แปรรูป ThO₂ (Thorium dioxide) ให้เป็นเม็ดเชื้อเพลิง
-
-
บรรจุในเครื่องปฏิกรณ์:
-
ตัวอย่างเครื่องปฏิกรณ์ที่ออกแบบรองรับทอเรียม เช่น Molten Salt Reactor (MSR), High Temperature Gas-cooled Reactor (HTGR)
-
-
กระบวนการเพาะพันธุ์และฟิชชัน:
-
Th-232 ดูดซับนิวตรอน กลายเป็น Th-233, แล้วสลายตัวเป็น Pa-233 และต่อเนื่องเป็น U-233
-
U-233 แตกตัว (fission) ปล่อยพลังงานออกมาให้ความร้อน
-
-
การเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นไฟฟ้า:
-
ใช้ไอน้ำขับเทอร์ไบน์ผลิตไฟฟ้าเช่นเดียวกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบอื่น
-
-
จัดการกาก:
-
มีอายุครึ่งชีวิตสั้นกว่ากากยูเรเนียมและปลอดภัยกว่าในการจัดเก็บระยะยาว
-
ตัวอย่างจริง
-
อินเดีย: มีโครงการพัฒนา Advanced Heavy Water Reactor (AHWR) ใช้ทอเรียมผสมยูเรเนียมเป็นเชื้อเพลิง
-
จีน: กำลังทดลองเครื่องปฏิกรณ์เกลวลทอเรียม (MSR) ที่เมืองหวูเว่ย
-
สหรัฐอเมริกา: Oak Ridge National Laboratory ทดสอบวงจรนี้ตั้งแต่ยุค 1960s
สรุปเชิงวิชาการ
การได้มาซึ่งพลังงานจากทอเรียม คือการเปลี่ยนพลังงานนิวเคลียร์ใน Th-232 ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า ผ่านกระบวนการเพาะพันธุ์และฟิชชันในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เฉพาะทาง ต้องการการลงทุนและวิศวกรรมขั้นสูง และยังต้องการการผลักดันจากภาครัฐและนโยบายสาธารณะอย่างมาก หากพัฒนาได้สำเร็จ จะเป็นอีกหนึ่งเสาหลักของระบบพลังงานคาร์บอนต่ำในอนาคต
No comments:
Post a Comment