ครองตน ครองคน ครองงาน

 เขาใช้ชีวิตเหมือนคนแบกของสามชิ้นไว้ในมือ — หัวใจหนึ่งของตัวเอง หัวใจของคนที่เขารัก และภาระงานที่อยู่ตรงหน้า

แต่ละอย่างล้วนมีน้ำหนัก
บางวันเขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่
บางวันเขารู้สึกว่าตนเองกำลังเดินอยู่บนเชือกเส้นบาง ๆ ระหว่าง “หน้าที่” และ “ความเป็นมนุษย์”

ครองตน — รู้จักตัวเองให้มากพอ ก่อนจะรับผิดชอบใคร

เขารู้ว่า ถ้าใจเขาไม่สงบ เขาจะเผลอโยนความวุ่นวายให้คนรอบข้าง
เขาจึงเลือกให้เวลากับความเงียบ
กับหนังสือดี ๆ สักเล่ม หรือกับการอยู่คนเดียวในช่วงเวลาสั้น ๆ
ไม่ใช่เพราะเขาหนีโลก แต่เพราะเขารู้ว่า “โลกข้างนอก” จะสงบไม่ได้
ถ้า “โลกข้างใน” ของเขายังโกลาหล

ครองคน — รู้จังหวะของหัวใจคน

เขารู้ว่าความรักไม่ใช่การทำให้ทุกคนพอใจ แต่คือการฟังอย่างตั้งใจ
บางทีคนข้างกายไม่ได้อยากได้คำตอบ แต่อยากได้ “ความเข้าใจ”
เขาเรียนรู้ที่จะไม่ขัดจังหวะเวลาคนเศร้า
และไม่เบี่ยงเบนความรู้สึกของคนที่กำลังดีใจ
การครองคนจึงไม่ใช่การควบคุม
แต่คือการ “ร่วมเต้นรำในจังหวะที่ไม่ใช่ของเรา” อย่างนุ่มนวล

ครองงาน — ทำให้ดีโดยไม่ทำลายตัวเอง

เขาเคยทุ่มเทจนลืมหายใจ
แต่เมื่อวันหนึ่งเขาล้มลงจากความเหนื่อยล้าโดยไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ
เขาจึงรู้ว่า “งานที่สำเร็จ แต่ใจพัง” นั้นไม่คุ้มเลย
เขาเริ่มตั้งขอบเขต
เริ่มรู้จักคำว่า “พอ”
และเริ่มแยกให้ออกระหว่าง “ความเร่งด่วน” กับ “ความสำคัญ”

แล้วสมดุลอยู่ตรงไหน?

สมดุลไม่ใช่การให้เวลาเท่า ๆ กัน
แต่คือการ “ให้คุณค่าอย่างเหมาะสม”
กับตัวเอง กับคนรอบข้าง และกับสิ่งที่ทำ

บางวันเขาอาจให้ตัวเองมากหน่อย
บางวันให้คนอื่นมากกว่า
และบางวัน งานอาจกลืนเขาไปทั้งวันทั้งคืน

แต่ถ้าท้ายที่สุด เขายังมีรอยยิ้มให้ตัวเอง
ยังมีแววตาอ่อนโยนให้คนข้าง ๆ
และยังไม่ลืมว่า...เขาไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อ “แค่ทำงานให้เสร็จ”
แต่เพื่อ “ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่” — นั่นแหละ
เขากำลัง “ครอง” ทุกอย่างไว้อย่างงดงามแล้ว.

Comments