เมื่อ new normal คือการใช้ชีวิต ดำเนินชีวิตภายใต้ข้อกำหนด ข้อจำกัดร่วมกันหลายรูปแบบ
การใช้ชีวิตอาจจะหมายถึง มีปัจจัย 4 อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค และที่อยู่อาศัย และบางทีเราก็ยังมีไม่ครบ หรือกำลังหา
เมื่อ new normal เข้ามา เราก็หายากขึ้นไปอีก แล้วเราจะใช้ชีวิต ดำเนินชีวิต เพื่อหาปัจจัย 4 นี้ยังไง เดิมอาจจะหาเพื่อดีขึ้น ก็ชะลอ เดิมอาจจะเล็กไป เก่าไป ก็ชะลอ เดิมอาจจะกินดี อยู่ดี ก็ลดๆ กันไปก่อน
ระยะยาวคงไม่ดี สิ่งที่ดีคือ การกลับมาดูว่าหากต้องอยู่กับ new normal ต้องทำยังไงกับปัจจัย 4 และการดำเนินชีวิต
การจะใช้ชีวิต ต้องมีการเรียนรู้ การเรียนรู้เพื่อให้หาวิธี หางาน หาสิ่งที่จะเหมาะสมได้รับปัจจัยให้เราสามารถดำรงอยู่ได้ แต่การเรียนรู้มันยากขึ้น การฝึกทักษะมันยากขึ้น รูปแบบการเรียนรู้แบบใหม่ และงานที่มีมันเปลี่ยนรูปแบบ งานที่ต้องใช้ทักษะ กำลังคน(ที่กลัวซึ่งกันและกัน) จะเปลี่ยนไปทาง software data มากขึ้น แต่ข้อมูลการวิเคราะห์น่าสนใจมากเพราะไม่เหมือนเดิม การตลาด online ยังไปได้ ถ้าคนยังบริโภคปัจจัย มีการซื้อขาย แต่เจอวิกฤติหลายๆ รอบ ปัจจัยมันก็ลดลงๆ ช่วงหนึ่งอาจจะต้องซื้อเพื่อเตรียมตัว หรือรอผ่านวิกฤติ แต่เมื่อมันอยู่กับเรานาน การเก็บปัจจัยจึงอาจส่งผลกระทบให้การตลาดชะลอตัว หรือหยุด หรือเปลี่ยนรูปแบบ
การทำสื่อ การสื่อสารเพื่อกระตุ้น เพื่อการนำเสนออะไรบางอย่าง แต่เมื่อไม่ได้ออกไปดู ออกไปมีประสบการณ์จริง หรือไปแล้ว สิ่งที่เห็นไม่สวยงาม(เพราะก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน) อาจจะเริ่มหายไป สื่อที่สนุกสนาน เพื่อความบันเทิงอาจจะยังอยู่เพื่อปลอบประโลมจิตใจ แต่กับคนที่ต้องหาปัจจัยยังชีพ (ในทุกๆวัน) ใครจะมาเสพ หากอุปสงค์ อุปทานมันขาดตอน
ช่วงนี้ใครหาข้อต่ออุปสงค์ อุปทานนี้เจอก็ยังพออยู่ได้ แต่ใครๆ ก็หาเนาะ เดิม normal life เป็นเรื่องของทุนนิยม ความมีเกินพอ การใช้ทรัพยากรสิ้นเปลือง และการสะสม การตลาด การขาย ช่องว่างตรงนี้ยังมีเยอะมาก แต่ระยะยาวข้อต่อนี้ แบบ new normal มันอาจจะต่อไม่ติด หรืออาจจะหลุดไปเป็นข้อต่อวงเล็กๆ ที่อยู่ได้ด้วยตัวมันเอง ใครก็บอกไม่ได้ แต่ผมเชื่อว่าใครที่ลุกขึ้นมาทำข้อต่อเล็กๆ ให้อยู่ได้ เพื่อรอไปเชื่อมข้อต่อใหญ่วันหน้า จะรอด
Comments