กล่าวนำ
Demand - Supply ความไม่เท่าเทียม ต้องการให้เกิดความเท่าเทียม เหล่านี้ประกอบการทำให้เกิดอาชีพ ทั้งสัมมาชีพ และมิจฉาชีพ (หรืออาชีพคือความชำนาญการเฉพาะ) แล้วอาชีพ ที่ก่อให้เกิดรายได้ที่เลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอดตามปัจจัยสี่แค่นั้นมันดูเหมือนพอเพียง แต่..... ความต้องการของคนไม่สิ้นสุด ต้องการความปลอดภัย ต้องการอณาเขต สะสม กีดกัน ความเป็นพรรคพวก (โลกแห่งความจริง) สรรเสริญ ดังนั้นอาชีพที่มีอยู่มันจึงไม่เพียงพอให้กับคนทุกคน ให้สามารถเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดได้ จึงมีอาชีพที่เลี้ยงตัวเองไม่ได้ จึงต้องถามกลับว่าอาชีพแบบนี้ถือว่าเป็นอาชีพหรือไม่ หรือเป็นแค่การทำงาน เป็นแค่แรงงาน
เข้าประเด็น
กลับมาที่ "อาชีพ" นิยามอาชีพของผมต้องเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว และมีปัจจัย 4 ที่พอเพียงให้ได้ จึงจะถือว่าเป็นอาชีพ แต่.....มันมีห่วงโซ่ อุปสงค์ อุปทาน (ข้อต่อของการเกิดอาชีพ) ที่ก่อให้เกิดอาชีพแบบนี้จริงๆ ได้สักเท่าไหร่ มันมีความไม่เท่าเทียมกัน มันมีความเอาเปรียบกัน
กลับมาที่ "อาชีพ" นิยามอาชีพของผมต้องเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว และมีปัจจัย 4 ที่พอเพียงให้ได้ จึงจะถือว่าเป็นอาชีพ แต่.....มันมีห่วงโซ่ อุปสงค์ อุปทาน (ข้อต่อของการเกิดอาชีพ) ที่ก่อให้เกิดอาชีพแบบนี้จริงๆ ได้สักเท่าไหร่ มันมีความไม่เท่าเทียมกัน มันมีความเอาเปรียบกัน
แล้วทำอย่างไรให้ได้ไปถึง "อาชีพ"
เราควรคิดถึงว่า จริงๆ แล้วมันมีอาชีพ (จริงๆ) เหลือกันอยู่สักเท่าไหร่ แล้วมี งาน (แรงงาน) กันกี่ตำแหน่ง แล้วแรงงานจะเพิ่มความสามารถเป็นอาชีพได้สักกี่ปี กี่คน มีอาชีพที่ยังไม่มีคนทำเหลืออยู่ มีอยู่ คิดใหม่ เกิดองค์ความรู้อาชีพใหม่กี่ตำแหน่ง อันนี้ก็น่าคิด มากกว่ามาคิดวนๆ ซ้ำเดิมๆ แบบเดิม
เราควรคิดถึงว่า จริงๆ แล้วมันมีอาชีพ (จริงๆ) เหลือกันอยู่สักเท่าไหร่ แล้วมี งาน (แรงงาน) กันกี่ตำแหน่ง แล้วแรงงานจะเพิ่มความสามารถเป็นอาชีพได้สักกี่ปี กี่คน มีอาชีพที่ยังไม่มีคนทำเหลืออยู่ มีอยู่ คิดใหม่ เกิดองค์ความรู้อาชีพใหม่กี่ตำแหน่ง อันนี้ก็น่าคิด มากกว่ามาคิดวนๆ ซ้ำเดิมๆ แบบเดิม
No comments:
Post a Comment